วันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2558

คุณคิดว่าเราจะทำอะไรได้สำเร็จได้ยังไง

หลายๆครั้งที่ผ่าน เคยมีความคิดจะทำนู่นทำนี่สารพัด ไม่ว่าจะเริ่มอ่านหนังสือสอบ หรือเริ่มออกกำลังกายเป็นจริงจัง หรืออะไรที่มันเป็นความฝันอย่างเริ่มแต่งนิยาย เริ่มฝึกเป็นนักกีฬาอีสปอร์ต

และทุกๆครั้งจะนึกถึงผลลัพท์ของเรื่องราวเหล่านั้น วาดความฝันไว้อย่างสวยหรู หนังสือที่ฉันจะอ่านต้องทำให้ฉันเก็บ A ให้ได้ นิยายที่ฉันแต่งจะต้องโด่งดังไปทั่วโลก ฉันจะต้องออกกำลังกายทุกวันเพื่อมีหุ่นฟิตและเฟิร์ม นักกีฬาอีสปอร์ตได้เงินรางวัลมหาศาลมาก ฉันก็จะเอาด้วย...นอกจากนี้ยังมีอีกเยอะแยะ แต่มันก็ไม่ได้แปลกอะไรหรอกที่จะโหยหาผลลัพท์ตั้งแต่ยังไม่เริ่ม

ที่แปลกก็คือ เราโหยหาผลลัพท์เหล่านั้น แต่น้อยครั้งที่จะเราจะทำตามความคิดเหล่านั้น ในใจนั้นมีความหวังอันสูงส่ง ต้องการอย่างนู่น ต้องการอย่างนี้ แต่ได้แค่คิด ลงมือทำนั้นน้อยครั้งมาก และมักจะไม่สำเร็จ นิยายที่เริ่มแต่งได้แค่ครึ่งตอนแล้วก็ไม่ได้หันไปแตะ ออกกำลังกายได้แค่อาทิตย์แรกเท่านั้น หนังสือที่อ่านไม่จบ1บทเสียที คิดจะทำนั่นทำนี่แต่ไม่ได้ทำเลยก็มีเหมือนกัน

ทำไม?

คำถามที่คอยถามตัวเองมาตลอด ถ้าจะบอกว่า ขี้เกียจ แล้วทำไมเราถึงขี้เกียจ ทั้งๆที่ความคิดของเรานั่นอยากจะทำ อยากจะได้ผลลัพท์สวยหรูเหล่านั้น แต่ทำไมเรายังขี้เกียจได้อีก ทั้งๆที่เราอยากจะได้แท้ๆ เพราะอะไร ทำไมเราถึงเป็นคนแบบนี้

ด่าตัวเองเข้าไปเถอะไม่ได้ช่วยอะไรหรอก เรามาหาสาเหตุกันดีกว่า

1. เพราะว่า สิ่งที่จะทำไม่น่าดึงดูดพอหรือเปล่า เราอาจจะนึกถึงเฉพาะผลลัพท์มันมากเกินไปหรือเปล่า ทั้งๆที่สิ่งสำคัญจริงๆแล้วมันคือช่วงระหว่างทาง หรือง่ายๆคือขั้นตอนก่อนที่เราจะไปถึงผลลัพท์เหล่านั้น เราอยากได้Aใช่ เราต้องอ่านหนังสือให้มากๆๆๆๆๆ ใฝ่รู้และใฝ่เรียนให้มากๆๆเข้า ซึ่งตรงนี้ ขั้นตอนนี้เองที่จะทำให้พวกเราต้องท้อ การที่เราจะแต่งนิยายดีๆขึ้นมาได้ จะต้องมีอะไรที่มากกว่านั่งเขียนไปเฉยๆ ต้องมีการทุ่มเทให้กับมัน หรือจะเป็นนักกีฬารางวัลชนะเลิศก็ต้องทุ่มเวลาฝึกหนักกว่าผู้แพ้ สิ่งเหล่านี้หรือเปล่าที่จะทำให้เราต้อง "ขี้เกียจ" ความน่าดึงดูดของมันยังไม่พอ ไม่พอที่จะให้เรายอมทุ่มเททุกแรงกายและแรงใจเพื่อเข้าชนกับมัน ง่ายๆเลยก็คือมันอาจจะไม่ใช่ทางของเรานั่นเอง

2. เพราะแรงบันดาลใจมันยังไม่พอ ถึงแม้มันจะน่าดึงดูดขนาดไหน แต่ถ้าเกิดคุณตั้งคำถามกับมันว่า ทำไปทำไม เมื่อไหร่ล่ะก็ แสดงว่าคุณขาดแรงบันดาลใจแล้วล่ะ แรงบันดาลใจเป็นตัวขับเคลื่อนชิ้นดีที่จะทำให้คุณก้าวไปสู่ผลลัพท์ที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นผลลัพท์ที่สวยหรูที่โหยหา หรือเหตุผลจำเป็นที่จะต้องทำ เช่น ฉันต้องแข่งกีฬาอีสปอร์ตนี่ให้ชนะ เพื่อจะได้เอาเงินมาแต่งงานกับคนทีรฉันรัก ฉันต้องมีหุ่นที่ฟิตแอนด์เฟิร์มให้จงได้เพื่อที่เค้าจะได้หันมาชอบฉันซักที ฉันจะต้องเอา A วิชานี้ให้ได้เพื่อที่จะได้ทุนไปเรียนต่อเมืองนอก ฉันจะได้มีแฟนเป็นฝรั่งกับเขนมั่ง อะไรทำนองนี้ แต่ไม่ใช่แรงบันดาลใจอย่างแค่ อยากลอง อยากทำนะ ถ้าแค่ อยาก มันจะทำให้คุณไปได้ไม่ไกลหรอกก

สรุปง่ายๆเลยก็คือ เราจะทำอะไรซักอย่างได้สำเร็จ มันต้องมีสองอย่างเป็นตัวขับเคลื่อนคือ ความชอบและแรงบันดาลใจ เพราะสองสิ่งนี้ จะทำให้เราเผชิญกับอุปสรรคต่างๆได้อย่างไม่ท้อแท้(แน่นอนว่ามันมีปัญหานานับประการเลยทีเดียวสำหรับความสำเร็จหนึ่งอย่าง)

มันไม่มีอะไรง่าย

และนี่คือสิ่งที่ผมคิด
ภูมิพิชญ์

วันเสาร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ทิ้งร้างไว้สองปี นี่ยังมีหน้ากลับมาเขียนใหม่งั้นหรออ!!

ก็ตามหัวข้อเลยครับ ทิ้งร้างไว้สองปีเลยทีเดียวสำหรับบล๊อคๆนี้ (ก็มีอยู่บล๊อคเดียวไม่ใช่เรอะ)
ไม่มีไรมาก ที่ไม่ได้เขียนไรเพราะ มันไม่มีอะไรมาดึงดูดให้เขียนน่ะสิ ไอเดียอะไรก็ไม่มี ไม่รู้จะเขียนไรนั้นแหละ(จริงกว่านี้ก็คือขี้เกียจแล้วล่ะ)


ที่บอกเรี่มเขียนใหม่นั้นเป็นเรื่องจริง เพราะช่วงนี้แต่งนิยายไว้ก็กะว่าจะเอามาลงที่นี่แหละ นอกจากนี้ยังเขียนรีวิวเกมด้วย ก็จะเอามาลงที่นี่เหมือนกัน ก็เลยคิดว่าจะเปลี่ยนระบบบล๊อคใหม่เลยก็คือ อยากเขียนไรก็เขียน เขียนเหี้ยไรก็จะเอามาลงไว้ที่นี่ให้หมด แต่แน่นอนว่าจะแบ่งแยกหมวดหมู่ให้ชัดเจนแน่นอนไม่ต้องห่วง :)))

สำหรับ entry นี่ก็แค่อยากจะเริ่มเขียนอะไรเล็กๆน้อยๆเฉยๆ ไหนๆก็กลับมาเขียนใหม่ ก็ควรจะมีจุดเริ่มต้นใช่ไหมล่ะ

ขอบคุณที่ติดตามอ่านกันมานะครับ(มีด้วยเหรอ คนตามอ่านน่ะ 5555)

*ช่างน่าเศร้าจริงๆ*