วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ใครๆก็เริ่มจากผลงานห่วยๆทั้งนั้น



               อยากเป็นนักเขียนครับ ผมอยากเป็นนักเขียน ผมตะโกนออกไปดังๆ ประกาศตัวเองตรงนี้ เพื่อเหล่าประชาชีได้รับทราบ และเมื่อประกาศออกไปแล้วก็ต้องรับผิดชอบด้วยล่ะ รับผิดชอบต่อสิ่งที่ตนเองยืนยัน

               แต่อย่างไรก็ตามแค่ตะโกนออกไปดังๆแค่นั้น ไม่ได้ช่วยอะไรมากไปกว่าเรียกพลังเท่านั้น เพราะจะเป็นนักเขียนก็ต้องเขียน ดังนั้นเขียนออกมาเลย เขียนไปตามที่ใจคิด ไม่ต้องกลัวหรอกว่าผลงานเขียนของเรามันจะห่วย  คนที่ทำให้ผลงานชิ้นแรกแล้วดีเลิศเพอร์เฟคน่ะ มีแต่คนที่มีพรสวรรค์มาตั้งแต่เกิดเท่านั้น ดังนั้นจงเขียนซะ

               เขียน...ว่าแต่จะเขียนอะไร เรื่องนี้ตอบยากนะ เพราะว่านักเขียนทุกคนก็เขียนไปตามใจตัวเองทั้งนั้น บางคนชอบอ่านนิยาย ก็เขียนนิยาย บางคนชอบอะไรที่มันเกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์ บางคนอยู่เมืองนอก ก็เขียนเล่าว่าการอยู่ที่นั้นเป็นอย่างไร บางคนไปประสบกับสิ่งที่ไม่คาดฝัน ก็เขียนเล่ากัน บางคนรู้เรื่องนู่นนั้นนี่มาก ก็เขียนในสิ่งที่ตนรู้ออกมา บางคนจินตนาการสูง ก็เล่าจินตนาการออกมาในรูปของการเขียน .....ประมาณว่าเขียนตามใจตัวนักเขียนนั้นเอง

               เมื่อตัดสินใจแล้วว่าจะเดินทางบนเส้นทางนักเขียน ก็จะต้องยอมรับในสิ่งที่นักเขียนหน้าใหม่จะประสบพบเจอ คือ ผลงานชิ้นแรกที่แสนห่วย และ ผลงานชิ้นต่อไปก็ยังห่วย ต่อไปก็ห่วย ห่วยๆๆๆๆ ........ เหตุผลที่มันห่วยตลอดเพราะเราเป็นนักเขียนหน้าใหม่? ถูกแล้วล่ะ เราเป็นนักเขียนหน้าใหม่ อย่าแปลกใจและอย่าเพิ่งน้อยใจ ดูอย่างนักกีฬาอะไรก็ได้ นักกีฬาพวกนั้นตอนเล่นๆแรกมันก็ต้องห่วยสิถูกมั้ย เล่นเทนนิสตีลูกไม่โดนบ้างล่ะ เล่นฟุตบอลเตะเข้าประตูตัวเองบ้างล่ะ นั้นก็คือมันไม่แปลกเลยซักนิด ที่ครั้งแรกมันจะห่วยบรม

               ถ้าอยากเป็นนักเขียนมือฉบัง เขียนอะไรไปใครๆก็ให้ความสนใจ สิ่งที่จะต้องทำคือ "ฝึกฝน" ฝึกฝนสำหรับนักเขียนคืออะไร นั้นคือ "อ่าน" เยอะๆ และ "เขียน" เยอะๆ ทำไมถึงต้องอ่าน เราอ่านเพื่อดูว่าคนอื่นนั้นเขียนอย่างไร อาจจะศึกษาการใช้ภาษา หรืออื่นๆ คล้ายๆกับเก็บประสบการณ์ ถ้าเทียบกับการเล่นกีฬาหรือการเรียนก็คือ เรียนภาคทฤษฏี ส่วนการเขียนนั้นก็เหมือนภาคปฏิบัติ ลงมือทำจริง มันถึงจะเห็นผล

               แต่ก็ใช่ว่าฝึกแค่เดือนสองเดือนจะเป็นนักเขียนได้โดยทันที อาจจะเวลาฝึกหลายปีเสียด้วยซ้ำ ดังนั้นต้องคอยรับมือในเรื่องนี้เอาไว้ เพราะเราไม่สามารถที่จะอยู่ได้ทั้งปีโดยไม่มีเงิน เป็นผลให้นักเขียนจะต้องมีงานทำ จะเป็นงานอะไรก็ได้ทั้งนั้นที่จะพอกินไปทั้งปีหรือจะเป็นงานที่ชอบก็ได้ แต่ไม่ต้องกลัวไม่มีเวลาเขียนหรอกนะ เพราะนักเขียนส่วนใหญ่เขาก็ใช้เวลาว่างนี้แหละเขียน

               อย่างไรก็ตามสิ่งที่สำคัญที่สุดที่นักเขียนจะต้องมีคือ การมีความสุขและความสุขกับการเขียน มันเป็นคุณสมบัติสำคัญเลยล่ะ ถ้าเขียนแล้วไม่มีความสุข ก็ไม่ต้องมาเป็นนักเขียนหรอก ไปเป็นอย่างอื่นเลยดีกว่า

               เห็นได้ว่าการเป็นนักเขียนมันไม่ใช่เรื่องยากมากมาย และก็ไม่ใช่เรื่องง่ายจนเกินไป เพียงแค่มีความมุ่งมั่นจริงก็เป็นนักเขียนได้ ที่ผมเขียนไปทั้งหมดในบทความนี้เป็นสิ่งที่ผมมองนักเขียนในมุมของผมเอง อย่าเชื่อไปซะหมดล่ะ และที่คุณกำลังอ่านอยู่นี้ คือผลงานชื้นห่วยบรมของผมอยู่ เพราะมันคือผลงานขิ้นแรก ต้องขอบคุณมากจริงๆเลยครับที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ ขอบคุณสำหรับความอดทนที่ทนอ่านผลงานห่วยๆนี้ ขอบคุณจริงๆครับ 

                 " ไม่มีทางที่จะสำเร็จ หากขาดความเชื่อมั่นและความพยายามตั้งใจจริง "

1 ความคิดเห็น: